เป็นตัวเตอร์ โดนลูกศิษย์พูดแบบนี้ใส่ ควรจะทำยังไงคะ?

ไม่เคยคิดเลยว่าจะมาตั้งกระทู้แบบไม่ออกนามแบบนี้ จริงๆ ส่วนตัวเป็นอมยิ้มในพันทิปค่ะ แต่เนื่องจากเรื่องราวต่อไปนี้อยากจะขอความเห็นโดยปิดบังตัวตนก็เลยสมัครบัญชีใหม่ซึ่งไม่ได้ยืนยันตัวตนมาตั้งกระทู้ถาม (คือจริงๆ ก็เพิ่งเล่นพันทิปได้ไม่นาน ไม่ทราบเหมือนกันว่าอมยิ้มตั้งกระทู้แบบไม่ออกนามได้ไหม แต่เหมือนจะไม่ได้?) ตอนแรกก็ไม่ค่อยเห็นด้วยกับระบบใหม่ที่ให้สมาชิกหมายเลข(ไม่ได้ยืนยันตัวตน) สามารถ ตั้ง/ตอบกระทู้ ได้ เพราะเห็นมาหลายคนแล้วที่แค่มาตั้งกระทู้(แต่งนิยาย)ป่วนในพันทิป แต่พอลองมองในแง่นี้ ก็รู้สึกว่าดีเหมือนกันที่มีระบบนี้...

ขอเกริ่นเรื่องก่อนว่า จขกท.เป็นนักศึกษาปี 1 ของม.แห่งหนึ่ง อีกไม่กี่วันก็จะอายุครบ 19 ปี มีงานพิเศษคือเป็นติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษของสถาบันภาษาแห่งหนึ่งค่ะ เคยรับงานตั้งแต่สอนเด็กประถมปลายยัน ม.ปลาย เคยสอนทั้งผู้หญิงและผู้ชาย (แต่ไม่รู้ทำไมลูกศิษย์ที่เคยสอนส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชาย 555) ช่วงนี้ปิดเทอม(ของเด็ก) ได้รับคอร์สสอนเด็ก ม.1 จำนวนนักเรียนที่เรียนก็มีทั้งหมด 2 คนถ้วนค่ะ ซึ่งเป็นปกติของที่นี่ เพราะเด็กนักเรียนที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นระดับ ม.ปลาย เสียมากกว่า

เข้าเรื่องนะคะ นักเรียนทั้ง 2 คนนั้น เป็น เด็กผู้ชาย 1 คน กับเด็กผู้หญิงอีก 1 คน ปัญหาที่จขกท.มี คือ เด็กผู้ชาย ค่ะ ขอเรียกเขาว่า น้องเอ ละกัน

เรื่องก็คือเมื่อวานจขกท.มีสอนในคลาสนี้ค่ะ จขกท.สอนเรื่อง Present Perfect Tense สอนไปแรกๆ น้องๆ 2 คนก็ตั้งใจเรียนดี แต่พอเข้าเรื่อง Adverb เท่านั้น เรื่องก็บังเกิดค่ะ ตัวเอกที่ทำให้เกิดเรื่องก็คือคำว่า Yet ค่ะ พอจขกท.พูดคำนี้ (ออกเสียงชัดมากๆ) น้องเอก็หัวเราะเสียงดังเชียว เขาออกเสียงตามด้วยค่ะ แต่ไม่มีเสียง t ตบท้ายเหมือนจขกท. ถึงตอนนั้นก็พอเข้าใจว่าน้องคิดอะไร แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรนะคะ ก็เข้าใจว่ามันไม่ได้ร้ายแรงอะไร เพราะชีวิตก็เจอพวกชอบเล่นมุกตลกทำนองนี้เยอะ (โดยเฉพาะตอนรับน้อง พี่ๆ ชอบเหลือเกิน)

จขกท.สอนต่อค่ะ ก็บอกว่า "คำว่า Yet (เน้นเสียง t) แปลว่า ยัง" ยังไม่ทันจะแปลด้วยซ้ำ น้องก็หัวเราะ เราก็เลยหันไปมองหน้าน้องนิดนึง พอน้องเงียบ เราก็พูดต่อ แต่คราวนี้เราพูด "วาย อี ที เวลาจะใช้ เราจะเอาคำนี้..." พอเราพูดแบบนั้น น้องก็แบบ โห...อ่านทีละตัวเลยหรอ แหมๆๆ อะไรทำนองนั้น

เราก็เลยจะมีแซวน้องเขาว่า "หมกมุ่นนะเรา" คือเราคิดว่าน้อง ม.1 แล้วก็คงไม่ใช่จะใสๆ ยิ่งยุคนี้สมัยนี้ เราก็เข้าใจนะคะ ว่าสื่อมันค่อนข้างจะแพร่หลาย เข้าถึงได้หลายทาง แล้วก็คนจะชอบเอาคำนี้มาเล่นมุกด้วย ก็เลยค่อนข้างเฉยๆ

แต่ประเด็นมันมาอยู่ตรงนี้ พอเราแซวๆ ขำๆ น้องเขาก็คงจะเริ่มคิดว่าจะเล่นแรงกว่านี้ได้ มันก็มีคำว่า Golden โผล่ขึ้นมา ถามเราว่า "Golden อะ อาจารย์รู้จักป่ะ Golden" เราฟังแล้วก็แปลในใจ...อื้ม...ทอง แล้วก็เก็ทว่าน้องคงจะหมายถึง... เรามุมปากกระตุกขึ้นนิดหน่อย ณ จุดนั้น คือสรุปจะไม่เลิกพูดเรื่องนี้ ตกลงจะเรียนไหม อังกฤษอ่ะ? เราคิดในใจนะคะ แล้วน้องก็ถามต่อ "ดอก Golden อ่ะอาจารย์ รู้จักป่ะครับ"

ทีนี่ บทสนทนาต่อจากนี้เราไม่แน่ใจค่ะ เพราะหลังจากนี้เราจะเริ่มอารมณ์ขึ้น(มากๆ) เพราะน้องเขาเริ่มรุกถามจขกท. แบบมันทำให้จขกท.รู้สึกเหมือนโดนหยามศักดิ์ศรีผู้หญิง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ คืออาจจะถามเล่นๆ หรือยังไงไม่รู้ค่ะ แต่ไม่ขำด้วย เราเริ่มไม่ชอบ ก็เลยไม่ได้ตอบน้อง แต่เราบอกเขาว่า "ไปพูดแบบนี้กับคนอื่น ระวังจะโดนต่อยนะ" (ประโยคเดียวที่จำได้ในวันนั้น เป๊ะกว่าประโยคอื่นๆ ที่จขกท.เขียนมาข้างบน ข้างบนจะเอาแค่ที่จำได้คร่าวๆ ค่ะ อันนี้คือ เป๊ะ) ต้องขอบอกก่อนว่าเราไม่ได้ด่า หรือพูดน้ำเสียงตะคอกอะไรเลย เราค่อนข้างควบคุมอารมณ์ค่ะ น้ำเสียงที่พูดไปคือจะเป็นโมโนโทนค่ะ

"ถ้าไม่ใช่พี่ เราอาจจะโดนต่อยไปแล้ว" คือที่ว่าจะต่อยน่ะค่ะ ถ้าคนพูดไม่ใช่นักเรียน แล้วเราไม่ใช่ครู เราต่อยแล้วจริงๆ มารยาทแย่มากที่พูดจาแบบนี้ เราไม่ชอบมากๆ เราไม่รู้ว่าคนอื่นคิดยังไง แต่เราไม่ชอบ

พอเขาได้ยินเราพูดแบบนั้น เขาก็ตอบว่า "สรุปคือผมผิดหรอ ผมผิดใช่ป่ะ งั้นผมขอโทษ" << อันนี้รู้สึกผิดจริงๆ ใช่ไหม?

คือแบบ นี่คือไม่รู้ตัวเลยใช่ไหมว่า นั่นไม่ใช่สิ่งที่ควรจะพูด หรือจริงๆ ปกติคนเขาพูดเรื่องนี้เป็นปกติ แต่เป็นเราที่ไม่ปกติหรอคะ? ไม่เข้าใจเลยค่ะ

แต่จากนั้นเราก็ปล่อยๆ เรื่องนี้ไปแล้วสอนต่อตามปรกติ จากนั้นพอเลิกคลาสเรากลับบ้าน เราก็เล่าเรื่องนี้ให้พ่อแม่ฟัง แต่เราไม่ได้ระบุรายละเอียดมากนัก [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เราถามพ่อว่า "คือน้องเขาไม่รู้หรอว่ามันไม่ควรพูด" พ่อตอบเราว่า "รู้ (เสียงหนักแน่นมาก)" ส่วนแม่เราถามว่า "ทำยังไงดี" แม่เราก็แนะนำว่า "ไปคุยกับแม่เขาสิ" เราก็คิด คือหลังสอนเสร็จเราเจอแต่แม่ของน้องผู้หญิง ก็เลยไม่ได้คุยกับแม่ของน้องเอเลย แล้วก็อีกอย่างคือ ตั้งแต่เราสอนพิเศษมา (น่าจะราวๆ ครึ่งปีแล้วค่ะ) สอนเด็กผู้ชายมาเยอะ ไม่เคยเจอคนไหนพูดจาแบบนี้ใส่เลย ให้ตาย...

พรุ่งนี้เรามีสอนคลาสนี้ค่ะ คิดไม่ตกว่าจะไปบอกแม่เขายังไงดี เราไม่เข้าใจเลยว่าน้องเขาพูดเพราะไม่รู้ หรือรู้แล้วยังอุตส่าห์พูดจาให้เรารู้สึกอยากจะจับอัดกำแพงแบบนี้อีก แล้วเราก็รู้สึกว่าที่เราพูดไปแบบนั้นมันดีแล้วหรอ (เรื่องที่ว่าพูดจาแบบนี้อาจจะโดนคนฟังต่อยเอาได้) จริงๆ พอมาคิดๆ ดูแล้ว มันมีวิธีแก้ปัญหาตอนนั้นหลายแบบมาก ที่ดีกว่าพูดแบบนั้น

สุดท้ายนี้...สับสันจริงๆ ค่ะ ไม่เคยมีลูก ไม่มีน้องชาย ไม่เคยเลี้ยงเด็ก ไม่เข้าใจอย่างแรง Facepalm
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
คุณลองปล่อยเขาหัวเราะไปสิคะ แล้วตั้งหน้าตั้งตายกตัวอย่างประโยคต่อ โดยพูดสำเนียงธรรมชาติ
เช่น Have you taken a shower yet? ให้นักเรียนสังเกตุว่า เราจะเริ่มต้นประโยคด้วย ....และกริยาขอเราจะเป็นแบบ.... โดยจะมีความหมายว่า ทำสิ่งนั้นหรือยังถ้าลงท้ายด้วยคำนี้ ในรูปแบบกริยาแบบ tense นี้ (พร้อมยกตัวอย่างต่อเนื่อง สักอีกประโยคและแน่นอนจบด้วยคำเดิม เสร็จแล้วขอให้นักเรียนลองแต่งเองบ้าง)

คุณอย่าไปทุรนทุรายค่ะ ไม่งั้นเขาก็จะยิ่งได้ใจ คิดว่าคุณอายและเดือด เป็นครูได้ต้องแกร่งและเย็นชาในจุดที่ควรเย็นชา ให้เขารู้ตำแหน่งตัวเองว่าเขาเป็นใคร และคุณเป็นใคร ภาษาต่อให้มีคำพ้อง แต่ในบริบทของภาษานั้นไม่มีใครขำ เพราะมันเป็นอีกภาษาหนึ่ง ตัวเราเองก็ไม่ได้ขำ เขาอยากขำก็ขำไป แต่ช่วยทำตามที่สั่งด้วย เดี๋ยวสักพักนึงเขาก็รู้เองว่ามันเป็นคำปกติคำหนึ่งที่จำเป็นต้องรู้ไว้ อย่าไปดิ้น และที่สำคัญ ถ้าไม่ถึงที่สุดจริงๆ อย่าเพิ่งบอกผู้ปกครองค่ะ ลองแก้ปัญหาดูเองก่อน ทำไงก็ได้ให้เค้ารู้ว่าคุณไม่ใช่ของเล่นของเขา และเขาจะเดือดร้อนแน่ถ้าไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง การเป็นติวเตอร์ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ เมื่อปรามได้แล้วค่อยปลอบใจเขาด้วยมุขตลกอื่นที่ห่างไกลจากความทะลึ่ง หรือใจเราต้องเมตตาให้เขารู้ว่าเราปรารถนาดีกับเขานะ แต่ไม่ใช่จะยอมเขาทุกเรื่อง ต่อให้เขาเป็นลูกค้าก็ตาม วันนึงเขาต้องโตเป็นผู้ชายคนนึง ที่ไม่ควรทำนิสัยทุเรศๆใส่ใคร คิดซะว่าเราอบรมเขาเพื่อให้เป็นคนดี ไม่ใช่แค่มารับจ้างสอนให้เสร็จไปวันๆ    

ปล. เราก็เป็นผู้สอนค่ะ สอนวิชาเดียวกันเลย ผ่านมาหมดแล้วทั้งรับจ๊อบทั้งสอนประจำ เรายังไม่เก่งค่ะ เราแค่แชร์ในฐานะรุ่นพี่ในแวดวงวิชาเดียวกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่